Menu

Wednesday, December 21, 2011

The question that never was



On the edge of the universe,
I stood in the cold darkness,
I stared into the vast emptiness,
I screamed out sheer silence.

On the edge of the universe,
where everything is nothing,
where nothing is everything,
chaos and peace came into existence.



บ่อยครั้งที่เราตั้งคำถามกับเรื่องราวสับสนวุ่นวายในชีวิตต่างๆนาๆ
แล้วเราก็พยายามก้มหน้าก้มตาควานหาคำตอบให้กับมัน

ทำยังไงถึงจะรวย? ทำไมชีวิตกูถึงซวย?
เมื่อไหร่จะเจอคนดีๆ? ต้องทำยังไงคนนั้นถึงจะรักเรา?
บาปบุญมีอยู่มั้ย? อะไรคือเรื่องจริง? เราเกิดมาเพื่ออะไร?

แต่สิ่งที่เราเฝ้าถามมันไม่เคยมีคำตอบ
เพราะมันไม่เคยมีคำถามมาตั้งแต่แรก

โลกนี้สามารถหมุนและดำเนินไปได้โดยปราศจากคำถามเหล่านี้
เราต่างหากที่รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถหมุนและดำเนินไปได้หากปราศจากคำตอบ
โดยที่ไม่ทันมองว่าเราก็หมุนและดำเนินอยู่เรื่อยไปไม่ว่าอย่างไร





เพราะเราคือโลก

เพราะโลกคือเรา




ไม่มีคำถาม

ไม่มีคำตอบ



Note:
- ปัญหาใหญ่หลวงจากการว่างเว้นจากการเขียนบล็อกแล้วหันไปใช้บริการเว็บไซต์อย่าง Facebook สำหรับผมแล้ว นอกจากความติดขัดในการเรียบเรียงความคิด จับประเด็นมาเขียนให้ได้ชัดเจน นั่นก็คือการติดความเป็น egocentric ของ Facebook มาด้วย ทั้ง ego ของผมเองและ ego ของท่านอื่นๆ  ผมเสพ ego เหล่านั้นจนกระทั่งเต็มพื้นที่ความคิด และยังไปขุด ego ของตนมาเสริม ซึ่งทำให้เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองของใจ ไม่สามารถเกิดความคิดเชิงสร้างสรรค์  ความพยายามของผมในช่วงนี้คือการกำจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปให้ได้มากที่สุด เพื่อเรียกความรู้สึกดีๆตอนที่สามารถเขียนได้บ่อยๆเหมือนแต่ก่อนกลับมาอีกครั้ง  เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่จิดใจปลอดโปร่งจริงๆ ... ดังนั้นหากสิ่งที่เขียนในช่วงนี้อาจดูหม่นหมอง หรือแฝงความเกรี้ยวกราดไว้ โปรดเข้าใจว่านั่นคือตัวตนของผมในขณะที่เขียนมันออกมา 

1 comment:

  1. รอเวลา...
    ขอให้ปีหน้ากลับมาเขียนคล่องๆ จิตใจและความคิดปลอดโปร่ง

    ReplyDelete