Menu

Showing posts with label Share. Show all posts
Showing posts with label Share. Show all posts

Monday, October 15, 2007

We Blog for a Cause


[image by: Vardhana @ flickr]

วันนี้เป็นวันที่ชาว blogger ทั่วโลกร่วมใจกันพูดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม
เราก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้กับเขาด้วย
หวังว่าเรื่องที่พวกเราร่วมมือกันป่าวประกาศในวันนี้จะมีผู้รับฟัง และคิดตาม

คงจะมีหลายคนเขียนเรื่องวิธีรักษาสิ่งแวดล้อมไปแล้ว
แต่เราก็อยากจะเขียนเหมือนกัน เพราะเรื่องแบบนี้ยิ่งมีให้คนได้เห็นมากยิ่งดี
จะพยายามไม่เขียนเรื่องที่ไกลตัวเกินไป และเอาไปทำได้จริงละกัน

เรื่องที่เราสามารถทำเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมแบบไม่ยากนักได้ก็คือ
ลดปริมาณขยะ ประหยัดพลังงาน และลดปริมาณคาร์บอน

มาลองดูกันว่าทำอะไรได้บ้าง
- ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเวลาไม่อยู่ในห้อง
- ถ้าขี้เกียจปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทีละชิ้นให้หาปลั๊กรางที่มีสวิตช์หลักมาใช้ จะได้ปิดแค่ปุ่มเดียว
- หรือไม่งั้นก็ติดตั้งสวิตช์หลักของห้อง เพื่อไม่ต้องไล่ปิดไฟทีละดวงด้วย
- เปลี่ยนไปใช้หลอดประหยัดไฟที่เป็นเกลียวๆ (หลอด CFL)
- ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้ เพราะ screen saver ไม่ใช่ energy saver
- ซักผ้าด้วยมือและตากผ้าแทนที่จะใช้เครื่องซักเครื่องอบหรือส่งไปซักรีดที่ร้าน - ตลอดอายุของเสื้อยืดแค่ตัวนึงอาจจะทำให้มีการปล่อยคาร์บอนออกมาได้รวมถึง 9 ปอนด์เลยนะ
- เปิดหน้าต่าง พัดลม แทนเครื่องปรับอากาศ
- จะอาบน้ำอุ่นตอนหน้าร้อนทำไม - จริงๆถ้าไม่ใช่หน้าหนาว ได้อาบน้ำเย็นๆก็สบายดีนะ
- ใส่เสื้อผ้าให้คุ้มค่า อย่าซื้อเพื่อใส่แค่ไม่กี่ที
- บริจาคเสื้อที่ไม่คอยได้ใส่ให้ผู้ด้อยโอกาส (ที่ต่างประเทศมีบริษัทรับซื้อเสื้อเก่าไปรีไซเคิลด้วยนะ)
- หันมาขี่จักรยานกันบ้างก็ดี
- จ่ายค่าบริการต่างๆผ่านทางออนไลน์/หักจากบัญชี/บัตรเครดิต/ATM
- ลดการกินเนื้อ! (ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะ - แต่ยิ่งมีการเลี้ยงสัตว์มากยิ่งทำให้เกิดมูลของเสียมาก และเมื่อของเสียเหล่านั้นย่อยสลายจะเกิดก๊าซมีเทนและไนตรัส ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากกว่าคาร์บอนถึง 23 และ 296 เท่าเชียว)
- ลดการใช้ถุงพลาสติก ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่ถุง หรือหาถุงผ้าเป็นของตัวเองไว้ก็ได้
- ถ้าที่บ้านมีพื้นที่สวนให้ลองปลูกไผ่ (ปล่อยให้โตด้วยนะ) เพราะไผ่สามารถดูดซับ CO2 ได้ดี
- ไม่ต้องเชิญแขกมางานแต่งงานเยอะนัก ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรู้จักอยู่แล้ว แถมแต่ละคนยังเอารถมากันเองอีก
- ตัดหญ้าด้วยมือ(กรรไกร)แทนเครื่อง - เหนื่อยหน่อยแต่ไม่เหม็น แถมพอตัดเสร็จก็ภูมิใจกว่าด้วยล่ะ
- หัด print เอกสารแบบทั้งหน้า-หลัง
- เอากระดาษหน้าที่ไม่ได้ print มาใช้เขียน note ได้นะ
- ลองเดินขึ้น-ลงบันไดแทนลิฟต์ดู
- เช็คลมยางรถยนต์ - ลมยางอ่อนจะทำให้เปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น
- ถ้าถนนเส้นไหนรถติด เลี่ยงไปทางที่อ้อมแต่ไม่ติดดีกว่า เพราะรถที่อยู่กับที่นั้นปล่อยคาร์บอนเยอะกว่า
- ใช้บริการรับฝากรถ (Valet Parking) ดีกว่าขับวนหาที่จอดเอง (เค้าบอกว่าคาร์บอนที่เกิดจากการหาที่จอดรถในเมืองนั้นมากกว่าการขับรถอีกนะ)

สำหรับคนที่มีอำนาจตัดสินใจอะไรได้บ้างก็นี่เลย
- ให้ลูกน้อง/พนักงานทำงานจากที่บ้านได้เพื่อลดการเดินทาง (ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารให้คุ้มค่าหน่อย)
- ลด packaging ที่ไม่จำเป็นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ และเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่ายๆ - ประหยัดต้นทุนไปในตัวด้วย
- ลดขั้นตอนงานเอกสารที่ไม่จำเป็นออกจากระบบ


สุดท้ายที่สำคัญมากๆ

Consume Less, Share More, Live Simply

แค่ปรับทัศนคติในการใช้ชีวิต เราก็สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้แล้ว

ข้อมูลจาก:
- http://www.time.com/
- ที่เหลือคิดเอง

Wednesday, October 10, 2007

Frustration - the Band (and flickr's awesome-ness)


http://www.flickr.com/photos/le-hiboo/402261428/
Originally uploaded by
Rod Le-hibOO.com

ภาพนี้กับภาพของ Entry ก่อนนี้มีความเหมือนกันอยู่อย่าง
คือมันถูก search ขึ้นมาจากคำว่า frustration ใน http://www.flickr.com/
นี่เป็นรูปของวงดนตรีชื่อ Frustration เห็นแล้วอยากเอามาใช้ประกอบ blog เลย
แต่เจ้าของรูปเค้า set เอาไว้ไม่ให้เห็น URL code ของรูป
แต่เรามาค้นพบทีหลังว่ามี feature ให้สามารถ Blog มันผ่านเวบได้อยู่ดี
ก็เลยลองซะ ... หน้าตาคนร้องมันช่างกวนตีนดีจริงๆ

จริงๆเวบไซต์ flickr นี่เป็น collaboration platform ยุคแรกๆเลยนะ
ตอนนี้มันพัฒนาไปมาก จนทำให้เราเล่นกับรูปบนเวบไซต์นั้นได้เยอะมาก
เราสามารถสั่งพิมพ์ภาพที่ชอบออกมาเป็นรูปใส่กรอบ (ยังธรรมดา)
หรือสั่งทำเป็น Postcard (เอ๋??)
หรือสั่งทำเป็น mini card ขนาดครึ่งนามบัตร (เอ๋??)
หรือสั่งให้พิมพ์ออกมาบนผืนผ้าใบ (เอ๋!??)
หรือทำเป็นหนังสือภาพ (เอ๋!!??)
หรือจัด layout ภาพ + ตัวหนังสือ พิมพ์ออกเป็นเล่มเพื่อขายทาง online (!!!????)

และนี่คือความมหัศจรรย์เล็กๆน้อยๆของ web 2.0 และ collaboration platform



ตอนแรกพูดเรื่องอะไรนะ ลืมไปแล้ว

Wednesday, September 19, 2007

hyü : Preface



Hue [hyü]
-noun

1. a gradation or variety of a color; tint: pale hues.
2. the property of light by which the color of an object is classified as red, blue, green, or yellow in reference to the spectrum.
3. color: all the hues of the rainbow.
4. form or appearance.
5. complexion.

—Related forms
hueless, -adjective




เนื่องจากคงไม่มีคนเข้า Blog นี้มากกว่านี้อีกแล้ว
และไหนๆรูปก็ไปอยู่บน Blog ของพีร์แล้ว
เลยถือโอกาสนับตั้งแต่ตอนนี้ ค่อยๆแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก
โปรเจกต์ล่าสุด และ(น่าจะ)เอาจริงเอาจังที่สุดเท่าที่เคยคิดทำมา
เจอกันเต็มๆงาน Fat Fest #7 ครับผม

ระหว่างนี้คอยเข้ามาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

Note:
- พี่พีอย่าลืมจองบูธให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม
- Definition by Dictionary.com

Wednesday, July 25, 2007

Another Blog in Space

เรามีเพื่อนอยู่สองคน คนหนึ่งชื่อว่าพี อีกคนชื่อป๊อป
(จริงๆเรามีเพื่อนมากกว่านี้อีกราวๆ 2 เท่า แต่ขอพูดถึงสองคนนี้ก่อน)
ทั้งคู่เป็นเพื่อนเรามานานเกินครึ่งชีวิต ตั้งแต่สมัยประถม-มัธยม
เคยเรียน-เล่น-กิน-เที่ยวด้วยกัน หัวเราะ-ร้องไห้ร่วมกัน
และเป็นสองคนที่เราชื่นชมในวิธีการใช้ชีวิตมากๆสำหรับคนรุ่นเดียวกัน


พี มีชื่อจริงว่า พีร์ พวงมะลิต
สำหรับเราเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด
(ไม่อยากพูดมาก เพราะมันอาจจะอ่านอยู่)
พีเป็นคนที่ถือว่ามีความคิดอ่าน"ปกติ"ที่สุดคนหนึ่ง
ซึ่งนั่นถือเป็นคำชื่นชมที่มีความหมายมากในยุคปัจจุบัน


ป๊อป มีชื่อจริงว่า พัชรสุทธิ์ สุจริตตานนท์
เป็นเพื่อนคนแรกๆของเราเมื่อเริ่มเรียนประถม
ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้คุยด้วยบ่อยนักในช่วงหลัง
แต่เราคิดว่าป๊อปเป็นคนที่"สมบูรณ์"ทางความคิด
เป็นคนที่รู้จักวางแผน และมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่น่าชื่นชม

พูดถึงสองคนนี้ขึ้นมาเพราะว่าเร็วๆนี้ทั้งคู่เริ่มเขียน Blog ร่วมกัน
อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกในสมัยที่ Blog ใหม่ผุดขึ้นวันละแสนๆ
แต่ว่าด้วยแนวคิดและมุมมองของคนทั้งคู่ที่เราชื่นชม
เราเลยอยากจะแบ่งปันให้คนอื่นได้ลองไปสัมผัสดูบ้าง
และหากแวะไปแล้วก็ช่วยๆกัน comment ด้วยละกัน
  • จะเริ่มนิสัยการแวะเข้าอ่าน Blog ในลิงค์ของคนรู้จักให้มากขึ้น
  • จะเริ่มนิสัยการ comment ใน Blog ของคนอื่นๆให้มากขึ้น แม้จะไม่รู้จักมาก่อน
  • จะแนะนำ Blog ที่น่าสนใจของคนอื่นๆที่ไปเจอมาให้มากขึ้น
  • หวังว่าคนอื่นๆจะทำแบบเดียวกันบ้าง นานๆทีก็ดีนะ เวลานึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไร

Reference:
http://phirplop.blogspot.com/