Menu

Showing posts with label Food. Show all posts
Showing posts with label Food. Show all posts

Thursday, July 9, 2009

Long Weekend of Thoughts


[collage by: lerk7]

Saturday:
  • Nawamin City Avenue บนถนนนวมินทร์อยู่ห่างจาก The Crystal เลียบทางด่วนรามอินทราไม่เกิน 4 กิโลเมตร แต่คนที่ไปเดินเล่นและใช้บริการต่างกันอย่างมาก
  • ทั้งสองที่ที่ว่านี่ห่างจากตลาดปัฐวิกรณ์บนถนนนวมินทร์ราวๆ 7 กิโลเมตร แต่คนที่อยู่ที่นั่นยิ่งต่างออกไปอย่างมาก
  • ตลาดปัฐวิกรณ์คือหลักฐานว่ามีคนจำนวนมากอยากทำอะไรเป็นของตัวเองแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
Sunday:
  • ในเวลา 4 ชั่วโมงคุณสามารถโหลดเพลงแบบละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าว่าวันนี้อยากได้เพลงอะไรได้ราวๆ 40 อัลบั้ม ด้วยอินเตอร์เนทที่เร็ว 1Mbps
  • ของเล่นที่ชื่อว่าฟิงเกอร์บอร์ด (ไม่ใช่ช่องระหว่างเฟร็ทกีตาร์ที่เรากดคอร์ดกันนะ) กำลังกลับมาฮิตแบบเงียบๆ และเล่นโคตรยากแต่คุ้มค่าที่จะฝึกฝน ส่วนสาเหตุของการกลับมาน่าจะเป็นเพราะมันกลายเป็น app ใน iPhone + iPod Touch ละมั้ง
  • เนื้อที่ร้าน กิว กิว เต้ อร่อยก็จริง แต่ไม่อร่อยขนาดที่เราจะทรมานตัวเองไปร้านนี้อีกเป็นหนที่สอง และสภาพโดยรวมไม่ทำให้รู้สึกยินดีจะจ่ายเงินค่าเนื้อจานละ 2,500 บาทแน่ๆ (ไม่ว่าเนื้อมันจะดีและเยอะแค่ไหน)
  • คนบางคนสามารถเปลี่ยนไปได้อย่างมากเพียงแค่เปลี่ยนสายงานได้ไม่ถึงครึ่งปี
  • คนบางคนกลัวการเป็นคนไม่สำคัญจนต้องพยายามทำทุกวิถีทางให้ถูกสังเกตและมีคนรับฟัง ถ้าต้องการแบบนั้นจริงไปอยู่บน youtube ดีกว่ามั้ย??
  • ความเหี้ยไม่ต้องการเหตุผลมารองรับ คนบางคนรู้ตัวว่าผิดก็ยังสามารถเหี้ยใส่คนที่ไม่ผิดได้หน้าตาเฉย
Monday:
  • อยากแนะนำให้ทุกท่านรู้จัก Lucky ฟิล์มสี 35mm คุณภาพดีราคาถูก 40 บาทต่อม้วนเท่านั้น
  • ถนนจากกรุงเทพไปกาญจนบุรีเป็นถนนที่ขับสบายมากๆ ในบรรดาถนนออกต่างจังหวัดนี่น่าจะเป็นถนนที่เราชอบที่สุด
  • ไม่มีหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรีขายในจังหวัดกาญจนบุรี (จริงๆแล้วมี แต่หายากมากๆ)
  • มีหลายคนบอกว่าผัดไทยที่ร้าน ซุ่นเฮง ณ สี่แยกลาดหญ้า กาญจนบุรี อร่อยมาก (บางคนถึงกับบอกว่าอร่อยที่สุดในโลก) แต่สำหรับเรานี่เป็นอีกหลักฐานว่าโลกนี้มีสื่งที่เหี้ยแบบไม่อายฟ้าดิน เพื่อการเอาใจคน 10 กว่าคน คนอีกราว 30 คนที่มาถึงก่อน ต้องรอมันกินจนเสร็จอิ่มคิดเงินกลับบ้าน -- แน่นอนว่าเราไม่รอและเขวี้ยงเงินค่าเป๊ปซี่ 1 ขวด น้ำแข็ง 1 ถังและค่าหลบฝน 1 ชั่วโมงใส่ร้านมันไป
  • ถึงเราจะไม่ได้กิน เราก็มั่นใจว่านี่ไม่ต่างจากผัดไทยประตูผี ข้าวเหนียวมะม่วงป้าเจือ โรตีตลาดหัวหิน โรตีสายไหมอยุธยา เครปป้าพร หรือร้านไหนๆที่คนไปรอนานๆแบบไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่ร้านข้างๆหรือร้านแถวบ้านมันอร่อยเท่ากัน
  • เกิดความสงสัยขึ้นมาว่ามีคนพยายามเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเพียงเพื่อดื่มเหล้าและทำลายบรรยากาศคนอื่นๆ แค่นั้นจริงๆหรือ?
  • ตอนนี้เราสามารถถ่ายรูปด้วยกล้อง Fuji Instax Mini 7s ได้โดยไม่ต้องเล็งผ่าน viewfinder อย่างแม่นยำสุดๆ
  • ร้านคีรีธารา ริมแม่น้ำแควอาหารไม่ได้วิเศษเลิศเลอ แต่บริการโคตรจะดีเลยครับ
  • ถ้าอยากลองดูรีสอร์ทที่ไม่ลงทุนเยอะแต่ไม่ขี้เหร่แนะนำให้ไปอินจันทรี (Inchan Tree) ใกล้ๆสะพานข้ามแม่น้ำแคว
Tuesday:
  • ผึ้ง เป็นแมลงที่ไวต่อกลิ่นน้ำหวานมาก แยมส้มมาตั้งบนโต๊ะไม่ถึง 1 นาทีมีผึ้งมารุมที่จานเราแล้วเกือบครึ่งรัง (ถ้ารังนั้นมีแค่ 20 ตัว) และพยายามจะมาเกาะกินคราบแยมบนปากเราด้วย
  • นั่งดู หม่ำ on Stage จากช่องเคเบิ้ลในห้องพัก ได้ฟังน้าแอ๊ดร้องเพลงทะเลใจแล้วน้ำตาซึม คนอื่นว่าไงไม่รู้ แต่ถ้าถึงวันที่จะไม่มีโอกาสได้ฟังได้ดูคาราบาวสดๆอีกเราคงเสียใจมากแน่นอน
  • กาญจนบุรีสามารถพัฒนาให้เป็นจังหวัดที่น่าไปมากๆได้ ขอแค่คนเริ่มไปลงทุนกัน (ไปลงทุนกันเถอะ)
  • หลังจากปตท.ไปเทคโอเวอร์กิจการปั๊ม Jet อรรถรสในการขับรถทางไกลข้ามจังหวัดก็ลดลงไปเยอะมากๆ เพราะคุณจะหมดโอกาสพูดว่า “ขอแวะเจ๊ตหน่อย” กับเพื่อนร่วมทาง
  • Union Mall ลาดพร้าวมีคนไปเยอะขึ้นแล้ว อย่างน้อยๆก็หาที่จอดรถยากขึ้นล่ะ ไม่รู้รถคนมาดูหรือรถคนขาย แต่เราไปหาซื้อแม็กกาซีนเก่าต่างประเทศที่ชั้น 3 (ใครรู้จักว่าที่ไหนมีเยอะๆช่วยบอกด้วย)
  • ยิ่งฟังอัลบั้ม‘ทิงนองนอย’ ของโมเดิร์นด็อกก็ยิ่งชอบ ยิ่งรู้สึกว่ามีอะไรให้คิดต่ออีกเยอะจริงๆ

Friday, March 13, 2009

Smells Like the Lion City


[Image from Waffar.com]

เมื่อคืนนี้เราเข้านอนแบบหิวมากๆ เพราะข้าวมื้อสุดท้ายที่กินไปคือตอนเที่ยงๆ
เช้าตื่นมาก็ยังหิวมากๆอยู่ เลยคิดว่าต้องฝืนกิจวัตรตัวเองด้วยการกินอาหารเช้า
และไหนๆก็ตื่นเช้าแล้วเลยคิดว่ามีเวลาพอแวะกินระหว่างทางไปออฟฟิศ
ด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม เราเลือกที่จะฟุ่มเฟือยด้วยการกินอาหารเช้าของ McDonald's

ชุด Big Breakfast (ราคา 99 บาท) ประกอบไปด้วย:
- แป้งแฮมเบอร์เกอร์ทาเนย 2 ชิ้น
- เนื้อแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น
- ไข่ Scrambled Egg 2 ฟอง
- Hash brown 1 ชิ้น
- กาแฟ 1 ถ้วย (ของประเทศในรูปนั่นเป็นน้ำส้ม -- ประเทศเราเป็นกาแฟ)
- เกลือ / พริกไทย / แยม / ครีมเทียม / น้ำตาล

ประเด็นที่จะบอกไม่ใช่เรื่องคุณค่าทางโภชนาการ (ที่น่ากลัวมาก เดี๋ยวจะบอกด้านล่าง)
พอเรายกอาหารชุดนี้มาที่โต๊ะแล้วเปิดฝาออก
กลิ่นอาหารและกาแฟที่ผสมกันในอากาสทำให้เรานึกถึงสิงคโปร์!
มันเป็นกลิ่นที่คุณจะรู้สึกได้เวลามาถึงสนามบิน Changi
เป็นกลิ่นที่ลอยอยู่ในอากาศของ Orchard Road ตอนสายๆ
เราบอกไม่ได้หรอกว่ามันเป็นกลิ่นเฉพาะของประเทศนี้
เพราะว่าเราก็ไม่ได้ไปประเทศอื่นมานานแล้วเหมือนกัน

กลิ่นอาหารเช้ามื้อนี้มันมีความรู้สึกไม่อยากรีบร้อนเคลือบความเร่งด่วนอยู่
เป็นแค่ชั้นผิวบางๆที่เหมือนทำขึ้นมาหลอกๆให้รู้สึกอุ่นใจในสังคมแบบตะวันตก

เป็นความจอมปลอมที่ทำให้เราเต็มใจที่จะเชื่อ
นั่นก็คงเป็นความเหมือนกันระหว่างอาหารเช้ามื้อนี้กับประเทศที่เราไปมาบ่อยที่สุด



[Image by: night68mare]

Note:
- คุณค่าทางอาหารที่ได้รับจากอาหารมื้อนี้คือ พลังงาน 730 แคลอรี่ (414 แคลอรี่จากไขมัน) ไขมัน 46 กรัม (71% จากปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน) ไขมันอิ่มตัว (70%) คลอเรสเตอรอล 465 มิลลิกรัม (155%) โซเดียม 1460 มิลลิกัม (61%) คาร์โบไฮเดรต 53 กรัม (18%) ไฟเบอร์ 3 กรัม (12%) น้ำตาล 2 กรัม โปรตีน 27 กรัม วิตามินเอ 0% วิตามินซี 0% แคลเซียม 2% ธาตุเหล็ก 167%

Friday, October 31, 2008

Not Enough Food for Everyone


[image by: Zerone Eric Ouano @ flickr]

ขอสำนึกผิดต่อสมาพันธ์ผู้เขียน blog ในฐานะที่ลงทะเบียนใน Blog Action Day เอาไว้แล้วไม่ได้เขียน
เพราะว่าตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่าจะเขียนยังไงในเรื่อง poverty (แม้แต่จะแถยังทำไม่ได้)
แต่ตอนนี้พอจะนึกออกบ้างแล้วว่าจะเขียนเกี่ยวกับอะไรได้ ลองดูละกันนะ

เราคิดว่าการกินบุฟเฟต์เริ่มเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการกินของชาวไทยตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
เมื่อก่อนบุฟเฟต์จะอยู่แต่ในโรงแรมซะส่วนใหญ่ แล้วก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าหนึ่งทำให้กระแสนิยมมากขึ้น
แต่ช่วงการเติบโตเป็นวัฒนธรรมคงเป็นพวกบุฟเฟต์หมูกระทะที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครากหญ้าอย่างทั่่วถึง
จ่ายเงินเพียงไม่ถึงร้อย หรือร้อยต้นๆก็ได้กินอาหารในปริมาณที่ปกติจะกินได้ 4-5 มื้อ
และช่วงปีนี้ยิ่งเข้าสู่จุดพีคเมื่อร้านอาหารหลายร้านผันตัวเองไปขายบุฟเฟต์
ไม่ว่าจะเป็นอาหารเวียดนาม พิซซ่า เนื้อย่าง ไอศกรีม (นี่คือการสะกดเป็นคำไทยแบบถูกต้อง) หรือก๋วยเตี๋ยว
ซึ่งจริงๆของพวกนี้ในสามัญสำนึกปกติเราคงไม่ได้อยากจะกินเยอะมากมายอะไรหรอก
แต่พอได้ยินคำว่าบุฟเฟต์ก็เหมือนหน้ามืดอยากกินขึ้นมา และพอกินก็จะกินเผื่ออีก 4 มื้อข้างหน้าด้วย
เหมือนกับซื้อของโปรโมชั่นตามมินิมาร์ท แบบ 2 ชิ้นถูกกว่า ทั้งที่ตอนแรกอาจจะไม่ได้อยากซื้อซักชิ้น

จริงๆการกินบุฟเฟต์ก็ไม่ใช่ไปเบียดเบียนทรัพยากรอาหารของใครหรอกนะ
เพราะปัญหาที่มีคนขาดแคลนอาหารมันอยู่ที่การกระจา่ย supply และรายได้ไม่เพียงพอ
และถ้ามีปัญญาจะกิน (ปัญญาในที่นี้คือเงินและความจุกระเพาะอาหาร) ก็กินไปเถอะ
แต่ว่าถ้าวันไหนไม่ได้หิวอดอยากมากมาย แค่เห็นคำว่าบุฟเฟต์เลยอยากกินขึ้นมา
ลองคิดดูหน่อยมั้ยว่า เงินที่จะเอาไปกินอิ่มเกินต้องการนั้น เอาไปทำให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ได้มั้ย
(อย่างน้อยเก็บออมไม่ให้ตัวเองอดอยากในภายภาคหน้าก็ยังดีนะ)

Note:
- เขียนไม่ค่อยเป็นตัวเองเลย

Wednesday, March 26, 2008

Cyber-Chicken

ไม่รู้ทำไมวันนี้อยากกิน Chester's Grill ขึ้นมา
เลยลอง google หาเวบไซต์เพราะจะเช็คหาเบอร์โทรสั่ง
พอเข้าไปเจอเวบแล้วตะลึง ตะลึง ตะลึง
มีเวบไทยที่ดูตั้งใจทำขนาดนี้เลยรึเนี่ย (ตั้งใจกว่าเวบ Happy อีก)

ลองไปดูกันได้ครับที่ http://www.chestersgrill.co.th/

Monday, February 11, 2008

Get More of Your Money


[image from: ilmungo @ flickr]

เดาแบบไม่มีเหตุผลอ้างอิงว่าทุกคนคงต้องใช้เงิน และมักจะมีไม่ค่อยพอใช้
เงินมีไว้ใช้เพื่อแลกกับของที่ต้องการ และของที่ต้องการก็มักจะมีมูลค่ามากกว่าเงินที่มี
แต่เวลาที่มีเงินพอที่จะซื้อหาของที่ต้องการมาได้มันก็รู้สึกดี
เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์จากของนั้นแล้ว เรายังมีความรู้สึกพึงพอใจที่ได้มันมา
แต่ว่าความรู้สึกนั้นมันอยู่ไม่นาน เพราะเดี๋ยวเราก็จะเบื่อและขยับไปต้องการอย่างอื่นแทน
ไม่ต้องรู้สึกผิดที่เป็นแบบนั้น เพราะใครๆในโลกทุนนิยมก็เป็นเหมือนกัน
ทุกคนก็อยากจะรวยพอที่จะมีทุกอย่างตามต้องการ แต่น้อยคนที่จะรวยแบบนั้น
ปัญหาจริงๆคือความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากการใช้เงินนั้น มันคุ้มค่ารึเปล่า
มีของกี่อย่างกันที่เราเอาเงินไปแลกมาแล้วให้ความรู้สึกดีกับเราไปได้นาน?

ขอเล่าเรื่องของเราเช้าวันนี้ให้ฟังซักนิด เผื่อจะเป็นตัวอย่างให้เอาไปคิดอะไรต่อได้
เรามาถึงออฟฟิศตอนสายๆ แล้วก็เดินไปกินก๋วยเตี๋ยวกับน้องในทีม
ก็กินจนอิ่มพอสมควรและจ่ายเงิน 25 บาทเพื่อแลกกับความอิ่มนั้น
ก่อนที่จะกลับขึ้นมาทำงาน เราเห็นคุกกี้ที่ร้านกาแฟเลยแวะซื้อมาด้วย
คุกกี้ 8 ชิ้นราคา 40 บาท ตกชิ้นละ 5 บาท (ถ้าเงินเดือนไม่มากก็แพงเหมือนกัน)
ตอนแรกกะจะกินซักสองชิ้นตอนสายๆ ส่วนที่เหลือเก็บไว้กินตอนบ่าย
พอมาถึงโต๊ะเราก็แกะถุงคุกกี้นั้นออก ... ได้กลิ่นหอมก็อยากกิน
แต่ว่าเรายังอิ่มอยู่ และเมื่อวานมีคนทักว่าอ้วน เลยเปลี่ยนใจไม่กิน
เราก็เลยเดินไปตามโต๊ะสมาชิกในทีมที่มาทำงานวันนี้ 4 โต๊ะ
เอากระดาษทิชชู่วางปูไว้ และเอาคุกกี้วางไว้ให้โต๊ะละ 1 ชิ้น

เราเดินกลับมาที่โต๊ะ ตอนนี้มีคุกกี้เหลืออยู่ 4 ชิ้น
ถ้าคำนวณใหม่ก็ตกชิ้นละ 10 บาท แพงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า
แต่ว่าคุกกี้อันเดียวกันที่ราคาแพงกว่าเดิมเป็นเท่าตัวนี้
ให้ความสุขใจได้มากกว่าคุกกี้ชิ้นละ 5 บาทเมื่อตอนซื้อเยอะเลย

เราใช้เงินไป 40 บาทเพื่อคุกกี้ 8 ชิ้นในตอนแรก
ถ้าเรากินหมดทั้ง 8 ชิ้นเราก็จะอิ่มบวกสุขใจเท่ากับ 40 บาท
แต่เรากินเองแค่ 4 และให้คนอีก 4
เราจ่ายเงินเท่าเดิม แต่อิ่มน้อยลงครึ่งหนึ่ง
แต่ความรู้สึกสุขใจที่ได้กลับมาจากเงินเท่ากันนั้นต่างกันมาก

ทำแบบนี้แล้วคุณอาจจะรู้สึกเหมือนกันว่าเงินซื้อความสุขได้
และเงินจำนวนน้อยกว่าอาจซื้อความสุขที่มากกว่าได้เหมือนกัน

Tuesday, January 15, 2008

Wintry Nonsense

เหมันต์.. ฤดูกาลแห่งความอร่อย..

โออิชิ ภัตตาคารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น และโออิชิ เอ๊กซ์เพรส..
ขอเชิญคุณมาสัมผัสกับบรรยากาศเหมันตฤดู.. "เหมันต์.. ฤดูกาลแห่งความอร่อย.."
บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งให้ความรู้สึกเสมือนกับมีหิมะปกคลุมขาวโพลนทั่วทั้งร้าน
ทั้งยังมีเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษเฉพาะช่วงฤดูกาลนี้เท่านั้น อาทิ
"ปลาบุรีสมุนไพร ซาชิมิ" จากปลาบุรีที่ถูกเลี้ยงด้วยสมุนไพร 4 ชนิด ได้แก่ ขิง
ออริกาโน ชินนามอน และลูกจันทน์ ทำให้ปลาบุรีสมุนไพรให้รสสัมผัสที่นุ่มลิ้น
แตกต่างจากปลาชนิดอื่นๆ โดยสิ้นเชิง, "อุด้ง"
เมนูพื้นบ้านที่ขาดไม่ได้ในช่วงฤดูกาลนี้ เหตุเพราะเป็นเมนูที่แฝงด้วยความอบอุ่น
และความสนุกสนาน ยามต้องลิ้น และเมนูอื่นๆ อีกกว่า 20 เมนู
รอให้คุณมาเปิดประสบการณ์ดีๆ ร่วมกัน ที่โออิชิ ภัตตาคารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น และโออิชิ
เอ๊กซ์เพรส ทุกสาขา เฉพาะเหมันตฤดู มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม 2551
เท่านั้น..

สอบถามเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งทุกสาขาล่วงหน้า ที่ โออิชิ คอลล์ เซ็นเตอร์ 02
712 3456

เช้านี้ฟังวิทยุอยู่ราวๆ 2 นาที สะดุดหูกับสปอตโฆษณาของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังกระฉ่อน "โออิชิ"
ตอนนี้ร้านเค้ามีโปรโมชั่นใหม่นะ ถ้ายังไม่ได้อ่านข้อความข้างบนจะสรุปใจความให้ฟัง

โออิชิเค้าจัดเมนูพิเศษต้อนรับฤดูหนาวให้เราได้ไปลิ้มลองกินกัน
โดยจะเป็นอาหารที่กินเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ให้พร้อมเผชิญลมหนาว
จะได้รู้ว่าคนญี่ปุ่นจริงๆเค้ากินอะไรให้มีชีวิตรอดในฤดูอันหนาวเหน็บ

ขอสรุปสาขาของโออิชิให้รู้ไว้ด้วยละกัน เผื่อใครอยากไปกิน:
ทองหล่อ / พหลโยธิน / สาทร / จัสโก้รัชดา / ซีคอนสแควร์ / เมเจอร์บางแค / เมเจอร์ปิ่นเกล้า
ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต / เซ็นทรัลทาวน์ รัตนาธิเบศร์ / ไอทีสแควร์หลักสี่ / โลตัสลพบุรี / อินเด็กซ์ภูเก็ต

... คนคิดโปรโมชั่นคิดว่าสาขาไหนหนาวกันนะ??

แหล่งข้อมูล: http://www.oishigroup.com/
ความจริง: วัตถุดิบเหล่านั้นราคาถูกในช่วงนี้

Tuesday, January 8, 2008

Blog Party

ผู้คนใน blog ring ที่ไปร่วมงาน Blog Party ครั้งที่ 1 มา
ต่าง copy รูปจาก blog นี้ มาลงไว้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
เราเลยต้องแสดงความเหนืออย่างแตกต่าง



ด้วยการ copy มาทั้ง blog เลย

blog party part 1: เราเขียนบล็อกกันทำไม?
January 8, 2008 by mahnakorn


เราเขียนบล็อกกันทำไมครับ?

เมื่อวานบ้านเพื่อนตระกูลบล็อกที่คุ้นเคยกันมาสักพักจากการอ่านและแสดงความคิดเห็นระหว่างกันได้พบปะ-ปะทะสังสรรค์กัน

บรรยากาศการพูดคุยแบบตัวเป็นๆ อาจจะทำให้ขัดเขินและตะกุกตะกักกันไปบ้าง ตามประสาเห็นหน้าไม่กล้าคอมเม้นท์ หัวข้อการพูดคุยก็เกี่ยวกับเรื่องบล็อกเป็นหลัก นอกเหนือจากนี้ก็เป็นรสนิยมใครรสนิยมมัน แต่มีอยู่ประเด็นนึงที่คุณ Plop ได้เอ่ยถามทุกคนในวงสนทนาด้วยความกังขาว่า

“ทุกคนเขียนบล็อกกันทำไมครับ?”

นั่นสิ ทำไมเราต้องเขียนบล็อก?

ถ้าจะให้ตอบแบบกำปั้นทุบดินปนเปื้อนด้วยความกวนตีนระดับเล็กๆ ก็คงต้องบอกว่า “ก็อยากเขียนน่ะ…”


มีต่อ แต่ว่าพอแล้วดีกว่า ถ้าอยากอ่านต่อเชิญได้ที่นี่
หรืออ่านของคนอื่นๆที่ไปร่วมงาน ที่นี่ และ ที่นี่ และ ที่นี่

และหากใครอยากไปร่วมด้วยในคราวหน้าลงชื่อจองไว้ก่อนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ

Note:
- กำลังจะริเริ่มโปรเจก blog ใหม่เพื่อให้ชาว blogger ได้มีที่มาเขียนอะไรสักอย่างร่วมกัน รายละเอียดจะตามมาหลังจากสรุปเรื่องเทคนิคได้นะครับ

Monday, January 7, 2008

Let's Eat!

เรียน Blogger ทุกท่านที่อยู่ร่วมใน Blog Ring แห่งนี้ ...

เย็นวันนี้ (7 ม.ค. 51) ขอเชิญไปร่วมสังสรรค์รับประทานอาหารเย็น/ค่ำร่วมกันที่ร้านอาหาร "โพนยางคำ" ซ.รัชดาภิเษก 32 กันถ้วนหน้า โดยตัวยืนที่(คิดเอาเองว่า)จะมาร่วมงานในครั้งนี้ได้แก่
- คุณ redbaron/ruamporn
- คุณ mahnakorn/Jeabb
- คุณ Phir
- คุณ Plop
- เราเอง

ไว้พบกันเย็นนี้ และเตรียมเงินมากันด้วยเพราะไม่มีเจ้ามือ


update: Jan 8, 2008
- รายงานหลังจากไปร่วมงานของสมาคมฯมาค่ำวานนี้ มีสมาชิกรายงานตัว 7 คน โดยสมาชิกที่เพิ่มมาจากรายชื่อด้านบนคือ คุณ tick และคู่หมั้นคู่หมายของสมาชิกท่านหนึ่ง ภาพข่าวโปรดติดตามจาก blog นี้

Tuesday, July 31, 2007

Megacreativity

อ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์มา
มีโจทย์ข้อหนึ่งให้ลองทดสอบ (เอาคำตอบแรกที่เข้ามาในหัว)
ให้ลองเลือกตัวเลขคี่มาหนึ่งตัวที่ไม่เกิน 10
ตัวเลขที่เลือกจะบ่งบอกถึงความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
คำตอบที่ได้นั้นน่าจะค่อนข้างตรงเลยล่ะ
ใครเลือกอะไรลองบอกมา เดี๋ยวจะเฉลยให้ใน comment

แต่ประเด็นก็คือ เราลองเอาไปถามเพื่อนเราคนหนึ่งมา
เขาตอบออกมาอย่างรวดเร็วว่า

.
.
.
.


6



เจ๋งจริงๆ แม่ง



Update:
และเนื่องจากว่ามีผู้มากมาย(ใคร?) เรียกร้องอยากจะเห็นหน้าเจ้าของคำตอบสะเทือนขวัญนี้
เราเลยไม่อยากขัดใจ ไปดูภาพจังหวะก่อนจะตอบออกมาให้เห็นกันจะๆเลย



Ta-Daaaa

.
.
.
.






Thank You Note:
- เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายภาพโดย ร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN Cucina @ Central World (3rd Floor) ... ไปอุดหนุนกันด้วยนะครับ