[image: rulebreakr @ deviantART]
ผมไม่ได้เห็นด้วยกับพี่เสกว่าการเสพยามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนเป็นศิลปิน
แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับอีกหลายคนที่ออกมาบอกว่าศิลปินไม่ต้องเสพยาก็สามารถทำงานเพลงได้
จริงๆแล้วจะเสพยาหรือไม่เสพยามันไม่ใช่เงื่อนไขของงานเพลงที่ออกมาเลย
แต่มันเป็นเงื่อนไขของบุคคลที่จะทำงาน ไม่เฉพาะแค่งานเพลงเท่านั้น
หรือพูดให้ชัดๆคือ มันเป็นเงื่อนไขของการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล
ย้ำว่า ของแต่ละบุคคล
ต้องเสพยาถึงจะทำเพลงดีๆได้ ... ก็ถูกของพี่ครับ
ไม่ต้องเสพยาก็ทำเพลงเจ๋งๆได้ ... ก็ถูกของพี่อีกคนครับ
เพราะว่ามันเป็นเรื่องของแต่ละคน ยากับงานมันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรทั้งนั้น
สำหรับคนที่ไม่ติดยา เขาก็สามารถหาแรงบันดาลใจได้จากแหล่งต่างๆ และคิดงานดีๆออกมาได้
แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกว่าต้องอาศัยพึ่งแรงกระตุ้นจากยาเสพติด เพราะมันเป็นเงื่อนไขของใจเขา
ผมเลยไม่เห็นด้วยกับคนที่ตัดสินพี่เสกด้วยการเอาวิถีของตนเองเป็นมาตรฐาน
และผมก็ไม่เห็นด้วยกับพี่เสกที่พูดเหมือนกับว่าวิถีชีวิตอย่างตนเองคือเรื่องปกติ
... เพราะโลกนี้ไม่เห็นจะมีอะไรที่เรียกได้ว่าปกติสักอย่าง
Note:
- ผมเริ่มเขียน เรื่องนี้ด้วยความตั้งใจว่าจะโพสต์เป็น status บน facebook ... แต่ยิ่งเขียนมันยิ่งยาว เลยถือโอกาสหยิบบล็อกขึ้นมาปัดฝุ่นสักหน่อย ... หวังว่าทุกท่านยังสบายดีนะครับ
- หลังๆพื้นที่ตอนท้ายตรงนี้เป็นเหมือนเป็นที่ๆมีไว้ให้ผมตอกย้ำตัวเองว่าไม่ ได้เขียนมานานแสนนานแค่ไหน ... เช่นว่า entry นี้ห่างจาก entry ก่อนหน้า 229 วัน(!) เป็นต้น
- ผมเริ่มเขียน เรื่องนี้ด้วยความตั้งใจว่าจะโพสต์เป็น status บน facebook ... แต่ยิ่งเขียนมันยิ่งยาว เลยถือโอกาสหยิบบล็อกขึ้นมาปัดฝุ่นสักหน่อย ... หวังว่าทุกท่านยังสบายดีนะครับ
- หลังๆพื้นที่ตอนท้ายตรงนี้เป็นเหมือนเป็นที่ๆมีไว้ให้ผมตอกย้ำตัวเองว่าไม่ ได้เขียนมานานแสนนานแค่ไหน ... เช่นว่า entry นี้ห่างจาก entry ก่อนหน้า 229 วัน(!) เป็นต้น
(รู้สึกว่าการเขียนของตัวเองแย่ลงทุกครั้งที่กลับมา)
ReplyDeleteแต่สิ่งที่เห็นชัดๆ จากวิถีชีวิตที่เลือกยาเสพติดแม้ในวัยที่ควรเลิกได้แล้วของพี่เสกก็คือ....พี่เสกควบคุมยาเสพติดไม่ได้
ReplyDeleteปล.ดีใจที่กลับมาเขียน
แม้เหตุผลที่จะเขียนเพราะมันยาวเกินไปสำหรับ status :)
ดีๆ เขียนอีกๆ
ReplyDelete