
[image by wufgaeng against censorship @ flickr]
คำว่า Monkey Business จริงๆแล้วแปลว่าการกระทำที่ซุกซน หรือมีเลศนัย
แต่คราวนี้จะพูดถึง Monkey Business ที่เป็นความหมายแบบตรงตัวเลย
นั่นก็คือเรื่องของธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ในสังคมของพวกลิง
แถมยังเป็นธุรกิจเรื่อง sex อีกต่างหาก
Michael D. Gumert (PhD.) ได้ตีพิมพ์งานวิจัยของเขา และกลายเป็นหัวข้อใน Time.com
เขาเฝ้าสังเกตฝูงลิงที่อินโดนีเซียราว 50 ตัวอยู่ 20 กว่าเดือน และพบรูปแบบพฤติกรรมของลิงพวกนี้
เขาบอกว่าลิงตัวผู้จะต้องมีของมาแลกเปลี่ยนกับตัวเมียในการที่จะมี sex ด้วย (ร่วมผสมพันธุ์นั่นแหละ)
ของที่เอามาแลกก็คือการหาเห็บหมัดบนตัวตัวเมียให้ และต้องทำให้ก่อนที่จะเริ่มผสมพันธุ์กัน
ตัวเมียที่ได้รับการบริการจากตัวผู้ก็จะตอบแทนคืนด้วยการยอมให้ตัวผู้มี sex ด้วยในอัตราที่เพิ่มขึ้น 1.5-3.5 เท่า
นี่มันก็คือรูปแบบของ service barter ดีๆนี่เอง แถมเป็นในเรื่องที่คนคุ้นเคยอย่างดี
ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือจำนวนของลิงในฝูง (supply) จะมีผลต่อระยะเวลาที่ตัวผู้จะจับเห็บให้ (price)
ถ้าในฝูงมีลิงตัวเมียเยอะ ตัวผู้ก็จะไม่ค่อยตั้งใจที่จะหาเห็บให้นัก ทำให้แบบเร็วๆลวกๆ
แต่ถ้าลิงตัวเมียมีน้อย ตัวผู้ก็ต้องหาเห็บให้นานเป็นพิเศษ
แม้แต่ลิงก็ยังใช้หลักเศรษฐศาสตร์ Demand-Supply แบบเดียวกับคนอย่างเราๆเหมือนกัน
พฤติกรรมของคนก็ไม่ได้ต่างไปจากลิงพวกนี้ด้วยเช่นกัน
ถ้าหากคนคนนึงมีคนรักแค่คนเดียว เค้าก็จะดูแลคนรักคนนั้นเป็นพิเศษ - ไม่ว่าเพื่อหวังผลอะไรก็ตาม
แต่ถ้าเกิดมีกิ๊กเยอะ ก็จะไม่ค่อยมาดูแลใส่ใจแต่ละคนเป็นพิเศษนัก
เพราะโอกาสที่เค้าจะได้ x (เติม action ลงไปเอง) นั้นมีมากขึ้น จึงไม่เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องไปหาเห็บให้ใคร
จากการวิจัยนี้ทำให้สรุป(เอาเอง)ได้ว่า คนนั้นน่าจะมีการพัฒนาหรือวิวัฒนาการจากลิง
โดยสิ่งที่เราได้รับมานอกจากรูปร่างที่คล้ายคลึงกันแล้ว ก็ยังมีแนวคิดทางด้านเศรษฐศาสตร์
.. และอีกเรื่องหนึ่งก็คือการซื้อ-ขาย sex ด้วยไง
ขยันip blog จังเลยน้อง
ReplyDeleteอ่านไม่ทันแล้ว
ว่างๆร้านพี่โรสกันดีกว่า
ได้เลยคุณพี่
ReplyDelete